วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แมวขนสั้น

  


แมวขนสั้น

แมววิเชียรมาศ (Siamese)

          

แมวไทยที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีในชื่อ Siamese Cat หรือ แมวสยาม หนึ่งในต้นตระกูลของแมวไทยที่ถูกนำไปปรับปรุงจนเกิดแมวไทยอีกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งตามตำนานสมุดข่อยได้กล่าวไว้ว่า หากใครได้เลี้ยงแมววิเชียรมาศ จะได้เป็นขุนนาง เพราะถือว่าแมววิเชียรมาศเป็นแมวลาภ อีกทั้งในอดีตยังเป็นแมวที่เลี้ยงกันในวังเป็นส่วนใหญ่ด้วย

     ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมววิเชียรมาศ

        เนื่องจากแมววิเชียรมาศเป็นแมวที่มีแต้มสีน้ำตาลเข้ม 9 จุดอยู่บนตัว ได้แก่ ที่ปลายเท้าทั้งสี่ ปลายหูทั้งสอง ปลายหาง บนจมูก และที่อวัยวะเพศ ดังนั้นจึงถูกคนเข้าใจผิดบ่อย ๆ ว่า เป็นแมวเก้าแต้ม แต่ที่จริงแล้ว แมวเก้าแต้มเป็นชื่อของแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่สูญพันธุ์ไปแล้ว
         ทั้งนี้ ไม่ว่าจะนำแมววิเชียรมาศไปผสมกับแมวพันธุ์อะไรก็ตาม ก็จะได้สีแต้มตามแบบ แต่แตกต่างกันในเรื่องของรูปร่างและอุปนิสัย อีกทั้งเมื่ออายุมากขึ้น สีแต้มก็จะเข้มขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้อาจจะมีสีแต้มที่แปลกแยกออกไป เช่น แต้มสีเทา สีแดง และสีกลีบบัว
          ส่วนอุปนิสัยของแมววิเชียรมาศก็คล้ายคลึงกับแมวไทยทั่วไป คือ มีความฉลาด คล่องแคล่ว ปราดเปรียวเหมือนกับรูปร่าง มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่ก็สุภาพเรียบร้อย แม้ว่าภายนอกของแมววิเชียรมาศจะดูรักสันโดษ แต่ความจริงแล้วกลับไม่ชอบอยู่ตามลำพัง ดังนั้นมันจึงเป็นแมวขี้อ้อน ประจบประแจงเก่ง
       การเลี้ยงดูแมววิเชียรมาศ

          ตอนกลางวันควรให้แมวอยู่อย่างอิสระในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ ตอนกลางคืนควรขังรวมกันไว้ในกรง กรงแมวต้องมีขนาดใหญ่ การเลี้ยงแมวในบ้าน แมวจะชอบขับถ่ายในที่ที่มีกลิ่นเหม็นหรือเป็นจุดอับ หากต้องการให้แมวขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง ควรเตรียมกระบะทรายไว้ในบ้านด้วย แต่ที่ต้องระวังคือแมวตัวผู้ที่โตแล้ว มักจะขับถ่ายไม่เลือกที่


แมวพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx)

                                 

       แมวสฟิงซ์ถือเป็นแมวที่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ด้วย  เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ (Hypoallergenic) ในบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายเลย  แถมนิสัยของมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากแมวทั่วไปด้วยแต่ยังเป็นมิตรกว่าแมวทั่ว ๆ ไปเลยด้วยซ้ำ  เพราะฉะนั้นสำหรับคนรักแมวที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือคนที่กลัวเป็นภูมิแพ้ก็สามารถหามาเลี้ยงกันได้

   ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวสฟิงซ์

      หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว ถ้าพูดถึงขนของมันไม่มีค่ะ 
      เป็นแมวที่มีความรักใคร่เป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุดเลยก็ว่าได้  เชื่อฟังเจ้าของ  มีท่าทีที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าด้วย เรียกว่าเชื่องมาก ๆ แถมยังขี้อ้อน ขี้ประจบเจ้าของอีกต่างหาก  ถ้ามันต้องหารความสนใจมันจะร้องด้วยเสียงเบา ๆ ของมัน แถมเสียงยังขาดหายเป็นจังหวะประมาณว่าเหมือนคนเสียงแหบ

    การเลี้ยงดูแมวสฟิงซ์

      แมวไร้ขนมีข้อดีเป็นอย่างยิ่งต่อการดูแล  แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ต้องดูแลเลยนะคะ  เพราะด้วยการไม่มีขนของมันผิวหนังมันจึงผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวเพ่ือปกป้องผิว  จึงต้องการการอาบน้ำและดูแลอย่างเหมาะสมเพ่ือให้ผิวหนังของมันมีสุขภาพดี  และถ้าคุณพามันไปออกแดดละก็ควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวทารกด้วยนะคะ  เพื่อปกป้องผิวหนังของมันจากการโดนทำร้ายจากแสงแดด


แมวพันธุ์ทอยเกอร์  (Toyger)



                           


  เป็น แมวสายพันธุ์ หนึ่งที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดย Judy Sudgen เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาอนุรักษ์เสือป่ากันมากยิ่งขึ้น การผสมกันระหว่างพันธุ์ Domestic shorthair กับพันธุ์ Bengal และ   แมวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นที่รู้จักกันน้อยมากในไทย

   ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวทอยเกอร์

เป็นแมวขนาดกลาง ลายบนตัวมันเป็นแนวตั้งล้อมรอบตัวเป็นลายที่มีไม่สม่ำเสมอ มีรอยที่คอ ขาและหาง  ที่สำคัญคืออุ้งเท้าและปลายหางจะต้องเป็นสีดำ
 เป็นแมวที่เป็นมิตร ขี้เล่น ไม่ได้ดุร้ายเหมือนหน้าตาของมันนะคะ และถือว่าเป็นมากที่ฉลาดสายพันธุ์นึงเลยทีเดียว  ถ้าคุณรู้จักฝึกมันจะสามารถทำตามได้

   การเลี้ยงดูแมวทอยเกอร์

  แมวพันธุ์นี้ดูแลได้ง่ายมาก  เพราะด้วยความที่มันมีขนสั้น แมวพันธุ์นี้ควรแปลงฟันและตัดแต่งเล็บให้มันด้วยนะคะ ปัญหาด้านสุขภาพของเจ้า Toyger ค่อนข้างน้อย


   แมวพันธุ์เอกซ์โซติก ขนสั้น (Exotic Shorthairs)     

                                 

  คงมีคนจำนวนน้อยที่จะรู้จักแมวพันธุ์เอกซ์โซติก ขนสั้นนี้กันเพราะเป็นแมวที่มีราคาสูงมาก  แต่ด้วยความโด่งดังของมันจาก social network อีกนั่นแหละจึงทำให้ได้รู้จักกับความน่ารักของเจ้าแมวพันธุ์นี้ขึ้นมาได้ เกิดจากการผสมของแมวพันธุ์ Persians และ  American Shorthairs

   ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมว


    เป็นแมวที่มึขนสั้นและนุ่มมว๊าก หัวกลม กะโหลกกว้าง มีรูปหน้ากลมแบน จมูกสั้น ดวงตาใหญ่เป็นพิเศษ  หูเล็ก และรูปร่างอ้วน มีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายกับแมวพันธุ์เปอร์เซีย เพียงขนของ แมวพันธุ์ Exotic Shorthair จะสั้นกว่าเหมือนจุดเด่นของพันธุ์ American Shorthairs เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องสีนั้นแมวพันธุ์ Exotic Shorthair จะมีเฉดสีขาว, น้ำตาล, ส้ม เป็นส่วนใหญ่
    เป็นแมวที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ไม่ขี้หงุดหงิด มีความอดทน บางทีคุณแทบไม่ได้ยินเสียงร้องของแมวพันธุ์นี้ เพราะมันค่อนข้างจะสงบ เงียบ และถ้าหากมันต้องการความสนใจ มันก็จะแค่นั่งอยู่หน้าคุณ หรือกระโดดมานั่งบนตัก ไม่งั้นก็เอาจมูกชื้น ๆ ของมันมาแตะที่หน้าคุณน่ารักอ่ะ

 การเลี้ยงดูแมว

  ด้วยความที่เจ้า Exotic Shorthair นั้นมีขนที่สั้นจึงทำให้การดูแลทำความสะอาดได้ง่าย  แต่จากข้อมูลของ wikipedia เค้าว่าเจ้า Exotic Shorthair เป็นแมวที่เลี้ยงยาก เนื่องจากหน้าที่แบนทำให้เกิดคราบสกปรกที่เกิดจากน้ำตาบนใบหน้าได้ง่าย แมว Exotic Shorthair ยังเป็นโรคไซนัสได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น ประมาณ 40-50% ของแมวพันธ์นี้มีโอกาสเกิดโรคไต และไม่มีทางรักษา เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงต้องมั่นดูแลและมักพาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ


แมวสก็อตทิช โฟลด์ (Scottish Fold)


                                   

เป็นแมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ ตัวแรกที่ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1961 ที่ประเทศสก็อตแลนด์ แต่ในตอนนั้นยังไม่มีใครทราบชื่อสายพันธุ์ที่แท้จริง เนื่องจากลักษณะของ Susie มีใบหูพับ และยังมีใบหน้าที่คล้ายกับนกฮูก ซึ่งหลังจากที่ Susie ให้กำเนิดลูกแมวน้อยหูพับ 2 ตัว William Ross ชายเลี้ยงแกะ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบคนแรกก็ได้นำลูกแมวตัวเมียไปเลี้ยง หลังจากที่ลูกแมวตัวนั้นโตขึ้น จึงนำไปผสมพันธุ์กับ บริติช ชอร์ตแฮร์ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์นี้ และได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องที่รับรองโดย The Governing Council of the Cat Fancy ของประเทศอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1966


ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมว

          แมวสายพันธุ์นี้แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ แบบขนสั้นกับแบบขนยาว โดยทั้ง 2 แบบจะมีลักษณะตัวกลม หัวกลม มีช่วงคอสั้น ดวงตากลมใหญ่ และมีหูตั้งตรงขนาดกลาง ไปจนถึงหูพับขนาดเล็กที่มีมุมพับกว้าง ปลายหูส่วนใหญ่จะกลม หูของลูกแมวจะเริ่มพับในช่วง 2-3  อาทิตย์แรก จมูกสันโค้งกว้างรับกับดวงตา ซึ่งบางตัวมีปากโค้งได้รูปรับกับคางพอดี จึงเป็นที่มาของสมญานามว่า Smiling Cat หรือ แมวยิ้ม นั่นเอง
          แมวพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง และชอบทำกิจกรรมในระดับปานกลาง พวกมันชอบที่จะเล่น เฉพาะเวลาที่มีเจ้าของมาร่วมเล่นด้วย บางตัวอาจไม่ชอบนอนบนตัก โดยเลือกที่จะอยู่ใกล้ ๆ กับเจ้าของแทน

การเลี้ยงดูแมว

         การดูแลแมวสก็อตติช โฟลด์ ค่อนข้างง่าย แค่หมั่นแปรงขน 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์สำหรับแบบขนสั้น แต่อาจจะต้องเพิ่มการดูแลมากขึ้นหากเลือกที่จะเลี้ยงแบบขนยาว โดยเฉพาะบริเวณใบหูของแมว ควรหมั่นทำความสะอาดบ่อยครั้ง พอ ๆ กับการแปรงขน และโดยทั่วไป แมวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่มีร่างกายที่ค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว จึงไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเป็นห่วงนัก

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

แมวขนยาว



แมวขนยาว


แมวเมนคูน (Maine Coon) 





          ถึงแม้แมวเมนคูนจะมีร่างกายที่ใหญ่โตกว่าแมวปกติ แต่มันกลับเป็นพี่ใหญ่ใจดี จนได้รับสมญานามว่า Gentel Giant ชื่อของแมวสายพันธุ์นี้ มีที่มาจากรัฐเมน (Maine) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของมัน ส่วนคำว่า คูน (Coon) มาจากคำบอกเล่าของชาวพื้นเมืองที่กล่าวว่า แมวบ้านเผลอไปกุ๊กกิ๊กกับตัวแรคคูน (Raccoon) จนมีการจับ 2 คำนี้มารวมกัน กลายเป็นชื่อที่ใช้เรียกกันทั่วไปว่า เมนคูน (Main Coon)

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเมนคูน

      
ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์เมนคูน คือ รูปร่างที่สมส่วน ดูสง่างาม และให้ความรู้สึกที่มั่นคงแข็งแรง หากเป็นแมวโตเต็มที่ ร่างกายของมันจะมีความยาวตั้งแต่หัวจรดปลายหางประมาณ 1 เมตร น้ำหนักตัวอยู่ที่ประมาณ 12-15 กิโลกรัม ถึงแมวเมนคูนจะมีโครงสร้างใหญ่ ใบหน้าเหมือนกับแมวป่า มีแผงคอคล้ายสิงโต แถมบริเวณปลายหูยังมีเส้นขนงอกออกมา แต่มันกลับมีนิสัยขี้อ้อน ขี้เล่น ร่าเริง ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยเจริญพันธุ์

           
 การเลี้ยงดูแมวเมนคูน

     อายุขัยของแมวพันธุ์อยู่ที่ราว ๆ 15 ปี เหมือนแมวทั่วไป แต่เนื่องจากร่างกายที่ค่อนข้างใหญ่โต การให้อาหารแบบแมวทั่วไปอาจไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต ดังนั้นเจ้าของควรเสริมด้วยเนื้อสัตว์ที่มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ เพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้กับมัน
    ส่วนขนของแมวเมนคูนค่อนข้างหวีง่าย เนื่องจากเป็นแมวกึ่งขนยาว จึงไม่มีปัญหาขนพันกันแบบแมวเปอร์เซีย เพียงแต่ควรจะอาบน้ำให้มันอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง และหลังการอาบน้ำทุกครั้ง ควรจะเช็ดพร้อมกับเป่าขนให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันโรคเชื้อราบนผิวหนัง




แมวเปอร์เซีย (Persian)






          
        ราชินีแมวจากแดนตะวันออกกลาง ซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเปอร์เซีย หรือประเทศตุรกีกับอิหร่านในปัจจุบัน แมวเปอร์เซียถือเป็นแมวต่างประเทศสายพันธุ์แรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย สิ่งที่ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักแมวก็เพราะว่า นอกจากจะมีหน้าตาน่าเอ็นดูแล้ว ขนปุกปุยของแมวเปอร์เซียยังมีสีสันที่หลากหลาย และนิสัยส่วนตัวก็น่ารักด้วย

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวเปอร์เซีย

         
แมวเปอร์เซีย เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีกระดูกที่ใหญ่และแข็งแรง หัวและหน้ากลม หน้าผากโหนก แก้มเต็ม ดวงตากลมโต และอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกัน มีจมูกที่หัก กล่าวคือ สังเกตได้ชัดเจนเมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นจุดหักระหว่างจมูกกับหน้าผากชัดเจน เมื่อมองจากด้านหน้าจะเห็นเป็นขีดอยู่ระหว่างดวงตา
             นอกจากหน้าตาที่น่ารักแล้ว ยังเป็นแมวที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน เข้ากับคนอื่นได้ง่าย มีความร่าเริงซุกซน ปีนป่ายไปตามจุดต่าง ๆ เพื่อหาของมากัดเล่น ช่างประจบประแจง และเป็นแมวที่มีไหวพริบมากทีเดียว


          
 การเลี้ยงดูแมวเปอร์เซีย

       เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแมวพันธุ์นี้แล้ว จงพึงระลึกไว้เสมอว่า การดูแลขนของแมวเปอร์เซียเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ผู้เลี้ยงต้องหมั่นทำความสะอาด โดยการแปรงและสางขนแมวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันการเกิดขนพันกัน ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค รวมทั้งพยาธิต่าง ๆ ที่จะเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบและเป็นที่อยู่ของเห็บหมัดอีกด้วย
        ส่วนในเรื่องของอาหารการกินนั้น ควรเลือกอาหารที่ช่วยให้ทางเดินอาหารของแมวไม่อุดตัน เนื่องจากแมวเปอร์เซียจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียทำความสะอาดขน อันเป็นสาเหตุในการกินหรือกลืนเส้นขนเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากเส้นขนไปรวมตัวกันในช่องท้อง จะทำให้แมวเปอร์เซียมีอาการสำรอกหรือเกิดปัญหาของระบบย่อยอาหารได้



แมวหิมาลายัน (Himalayan Persian)




         เกิดจากการผสมระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศทำให้เกิดลักษณะเด่นของแมวเปอร์เซียและวิเชียรมาศผสมกันได้ลูกแมวสายพันธุ์ใหม่ขึ้น บางครั้งจึงอาจเรียกแมวพันธุ์หิมาลายันนี้ว่า Colour point persian (อย่างเช่นถ้าจุดแต้มมันเป็นสีน้ำเงินก็จะเรียกว่า Blue point Himalayan ค่ะ)


        ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวหิมาลายัน

เป็นแมวขนาดเล็ก  ขาค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็มพอกับสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมัน  มีขนยาวบริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบๆคอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณหาง ขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกย้อยลงมาเหมือนกับพันธุ์เปอร์เซีย  แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ (จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4,หาง 1 และอวัยวะเพศ 1  จึงทำให้แมวพันธุ์นี้มีลักษณะที่โดดเด่นออกไป  แถมมันยังมีตาสีฟ้าสดใสเหมือนแมววิเชียรมาศด้วยนะคะ 
ชอบซุกซน รักสนุกสนาน ขี้เล่น  มันชอบที่จะมาอยู่คลุกคลีกับคุณและชอบทำตามกิจกรรมที่คุณกระทำอยู่ด้วย  สมกับเป็นแมวที่รักเจ้าของจริง ๆ

         การเลี้ยงดูแมวหิมาลายัน


       แมวพันธุ์นี้มีขนยาวเหมือนกับเจ้าเปอร์เซียนั้น  ทำให้การดูแลเหมือนกันเลยค่ะ  แถมเจ้าแมวพันธุ์นี้ชอบที่จะให้แปรงขน ทำความสะอาดอีกด้วย


แมวไซบีเรียน (Siberian)

                                                  

      
 แมวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่หายากมว๊ากและมีราคาสูงลิบ แต่ถ้าหาในไทยคงแทบไม่มีนะคะ  เพราะขนาดประเทศอเมริกาซึ่่งเป็นประเทศที่นำสายพันธุ์นี้มาเลี้ยงยังหายากเลย  แล้วถ้าพูดถึงความเป็นที่รู้จักของแมวสายพันธุ์นี้คงน้อยมาก ๆ

     ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวไซบีเรียน

      เป็นแมวแบบขนกึ่งสั้นกึ่งยาว จะมีขนหนายาวในช่วงฤดูหนาว  และขนจะสั้นลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ   จุดเด่นของมันเท่าที่สังเกตุนะคะแมวพันธุ์นี้จะมีขนที่แผงขอช่างเหมือนสิงโตตัวน้อยดี ๆ เลยละค่ะ ขนของมันนั้นมีหลากหลายสีตามการผสม แถมร่างกายของเจ้าพันธุ์นี่ช่างแข็งแกร่งสมกับมาจากป่าจริง ๆ

     ป็นแมวที่มีลักษณะนิสัยดี เหมาะสมแก่การเป็นแมวเลี้ยง แม้จะมีลักษณะคล้ายแมวป่าก็ตาม ลักษณะนิสัยคล้ายคลึงสุนัข คือจงรักภักดีและเป็นมิตร 

     การเลี้ยงดูแมวไซบีเรียน

    แมวพันธุ์นี้ต้องการอาหารถึงวันละ 4 มื้อเลยนะมากกว่าสุนัขอีก และอาหารนั้นก็ควรมีสัดส่วนทางโภชนาการที่พอเหมาะกับมันด้วย และต้องเล่นกับมันให้เป็นประจำนะคะ เพื่อไม่ให้มันเป็นแมวที่เบื่อโลกเซื่องซึมประมาณนั้น แมวพวกพันธุ์นี้มันต้องการความรักและการเอาใจใส่เรื่องการเล่นกับมันมาก ๆ เลย





แมวพันธุ์แร็กดอลล์ (Ragdoll)


                                       
   แมวพันธุ์แร็กดอลล์ ฟังจากชื่อของมันก็รู้ศัพท์อังกฤษกันไปอีกสักคำแล้วกัน ชื่อมันแปลว่าตุ๊กตาผ้านั่นเองงงงง ถิ่นกำเนิด  จากประเทศอเมริกา ไม่ค่อยเป็นีท่รู้จักกันในประเทศไทยดีสักเท่าไหร่  ส่วนมากคนไทยจะนิยมพวกเปอร์เซียมากกว่า

 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของแมวแร็กดอลล์

    ป็นแมวที่มีโครงร่างขนาดใหญ่ ร่างกายแข็งแรง มีตาสีฟ้าสวยงาม มองแล้วเคลิ้มเชียว ขนจะหนาแน่นเป็นปุยมากในบริเวณเอว ที่หางมีขนยาวชัน  ถ้าสังเกตุที่บริเวณอุ้งเท้าไปจนถึงช่วงขาของมันจะเป็นสีขาวจนดูเหมือนกับสวมถุงเท้าตลอดเวลา 
  เป็นแมวผู้ดีชอบความเงียบสงบ มีเสียงร้องที่เบามาก และเวลาอุ้มจะมีนิสัยที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเลยก็คือจะเมื่อเวลาที่คนอุ้ม มันจะทิ้งตัวโตงเตงราวกับตุ๊กตาเศษผ้าราวกับไม่มีชีวิต ดูคล้ายอาการเมายา ขนาดนั้นเชียวดูกันเอาเองละกัน

    การเลี้ยงดูแมวแร็กดอลล์

  ด้วยความที่เป็นแมวขนยาวแล้วชอบเลียขนเพื่อทำความสะอาด ทำให้แมวพันธุ์นี้มักป่วยจากการเกิด Hairball (ขนที่จับตัวเป็นก้อนกลมในกระเพาะ อันเกิดจากการเลีย) ในท้องสูง  เจ้าของที่เลี้ยง แมว Ragdoll ควรใส่ใจในการแปรงขนให้มัน และหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์กันด้วยนะคะ เจ้า Ragdoll จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ